วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2552

AuOvOm~วันทหารผ่านศึก

วันทหารผ่านศึก



นื่องในโอกาสวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้จะเป็นวันคล้ายวัน สถาปนาองค์การสงเคราะห์ทหาร ผ่านศึกและ เป็นวันทหารผ่านศึก ทางทีมงานวันว่างได้รับการ อนุเคราะห์ข้อมูลประวัติจาก "รายการใจถึงใจ" แผนกสารนิเทศกองบัญชา การ ทหารสูงสุด ซึ่งมีข้อมูลดังนี้


ด้วยตระหนักถึงคุณความดีของทหาร หาญที่เป็นกองกำลังในการปกป้อง อธิปไตยของประเทศ พวกเขาพร้อมเผชิญหน้ากับอริราช ศัตรูอย่างไม่หวั่นเกรง ต่อภยันตรายใดๆ ทหารทุกคนต่างสละได้ ทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่ ร่างกายและลม หายใจ ด้วยตระหนักถึงคุณความดีของ ทหารหาญเหล่านั้น รัฐบาลจึงหาหนทาง ที่จะให้ความช่วยเหลือมาตลอด โดยในสมัย พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวง กลาโหมเป็นผู้พิจารณาดำเนินการ ช่วยเหลือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงได้แต่งตั้ง กรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2488 โดยเรียกชื่อว่า "คณะกรรมการพิจารณา หาทางช่วยเหลือทหารกองทุน"


ครั้นต่อมาจำนวนของทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึกมีเพิ่มขึ้น เป็นจำนวนมาก การดำเนินงานโดยคณะกรรมการจึงไม่รัดกุมและเหมาะสมกับ เหตุการณ์ รัฐบาลจึงได้จัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เรียกชื่อย่อว่า "อผศ" เพื่อเป็นหน่วยงานถาวรที่จะทำหน้าที่ในการดูแลให้การสงเคราะห์ แก่ ทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึกโดยตรง ด้วยการยกร่างพระราชบัญญัติ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านส฿กและประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวนทหารผ่านศึก ต่อมาสภาทหารผ่านศึก สภากลาโหม และรัฐบาลได้ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ เพื่อขยายการสงเคราะห์ให้ครอบคลุม ไปถึงทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และ พลเรือนที่ปฎิบัติหน้าที่ในการป้องกัน หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราช อาณาจักร ทั้งภายในและภายนอกประเทศตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนดกับทั้ง ให้รวมมูลนิธิช่วยทหารและครอบครัวทหารที่ไปช่วยสหประชาชาติทำการรบ องค์การได้ให้การสงเคราะห์ประเภทต่างๆ แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหาร ผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึกและนอกประจำการ


กล่าวคือ ให้การสงเคราะห์ด้านสวัสดิการทั่วไป การสงเคราะห์ด้านอาชีพ การสงเคราะห์ด้านนิคมเกษตรกรรม การสงเคราะห์ด้านการรักษาพยาบาล การสงเคราะห์ด้านส่งเสริมสิทธิและเกียรติ สำหรับในวันทหารผ่านศึกประจำปี 2545 นี้ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกได้กำหนดให้มีพิธีและกิจกรรมต่างๆ เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีและความเสียหายของเหล่าทหารผ่านศึกทั้งหลาย โดยในช่วงระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2545 จะเป็นการประกอบ พิธีทางศาสนาพุทธ คริสต์ และ อิสลามรวมทั้งพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง และ ในวันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2545 จะเป็นการจัดงานเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึก ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลพลาซา สำหรับในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2545 จะมีพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และพิธีสวน สนามสดุดีทหารผ่านศึก ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลและประชาชน ชาวไทยยังคงระลึกถึงและไม่ลืมเลือนวีรกรรมที่เหล่าวีรชนทหารผ่นศึกได้เคย ประกอบเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน และ เพื่อคนไทยทั้งปวง


วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2552

AuOvOm~อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น


อาหารประเภทไหนที่ควรมีไว้ในตู้เย็น






-น้ำเปล่า"น้ำ" ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต ช่วยทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นไม่อย่างปกติ ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติและมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น รวมทั้งช่วยให้การขับถ่ายของเสียทำงานได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่น โดยน้ำที่เหมาะแก่การดื่มคือน้ำอุณหภูมิปกติ



- ผัก"ผัก" ถือเป็นอาหารที่มีคุณค่ามาก เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ อาทิ วิตามิน เกลือแร่ อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในผักยังมี "ใยพืช" (Fiber) ซึ่งช่วยกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ท้องไม่ผูก ป้องกันโรคริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งลำไส้



- ไข่ไก่"ไข่ไก่" เพราะในไข่ไก่มีทั้งโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย 9 ชนิด ทั้งยังมีวิตามินกับเกลือแร่อีกหลายชนิด เช่น วิตามินเอ , บี, ดี และ อี ธาตุเหล็ก , สังกะสี, ซีลีเนียม และไอโอดีน ส่วนใครที่เคยเชื่อมาผิด ๆ ว่าทานไข่แล้วจะเสี่ยงกับความอ้วนนั้น คุณเข้าใจผิด เพราะโคเลสเตอรอลในไข่แดงมีประมาณ 230 มิลลิกรัมต่อฟอง ซึ่งนับว่าปลอดภัยกว่าการกินเนย แป้ง น้ำตาล และเนื้อสัตว์ติดมันมาก



- นม"นม" ในที่นี้จะเป็นประเภทใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นนมวัว นมถั่วเหลือง หรือนมเปรี้ยว เพราะทุกประเภทล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเราต้องอ่านฉลากข้างกล่องหรือขวดให้ดีก่อนจะซื้อมาเก็บไว้ในตู้ เย็น เพราะในนมแต่ละยี่ห้อแต่ละสูตรก็จะมีปริมาณน้ำนมและสารปรุงแต่งไม่เท่ากัน สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาในเรื่องระบบย่อยอาหารคุณควรดื่มนมวัว เพราะในนมวัวมีแคลเซียมและโปรตีนซึ่งมีความสมบูรณ์ของกรดอะมิโนดีกว่าโปรตีน จากถั่วเหลือง



- เนื้อปลา"เนื้อปลา" เพราะโปรตีนจากเนื้อปลามีไขมันต่ำ ย่อยง่าย และมีสาอาหาร คือ กรดโอเมก้า 3 ซึ่งมีกรด DHA และกรด EPA โดย DHA จะช่วยบำรุงเซลล์สมอง เซลล์ประสาท และเรตินาในดวงตา ส่วนกรด EPA ช่วยควบคุมระดับโคเลสเตอรอล และลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในร่างกาย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้



- ผลไม้รสเปรี้ยวผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม , มะม่วง,ฝรั่ง, กีวี่ ,ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เพราะผลไม้ประเภทนี้จะมีวิตามินซีสูง (แถมยังปลอดภัยจากความอ้วนกว่าผลไม้รสหวานที่มีน้ำตาลมาก) ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของภูมิต้านทานโรค ช่วยลดระดับไขมันที่จะไปพอกพูนเส้นเลือดในร่างกายแล้วทำให้หลอดเลือดอุดตัน ทั้งยังช่วยควบคุมโคเลสเตอรอล และป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ที่สำคัญวิตามินซีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นเหตุของการเสื่อมของร่างกายอีกด้วย



- โยเกิร์ต"โยเกิร์ต" มีวิตามิน ได้แก่ วิตามิน เอ, บี1, บี2, บี3, บี6, บี12, ดี, อี มีกรดที่ช่วยในการดูดซึมโปรตีน แคลเซียมและเหล็กเข้าสู่ร่างกาย ช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบการขับถ่าย ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ช่วยบำรุงผิวพรรณ แต่ก่อนซื้อต้องอ่านฉลากให้ดีก่อนว่าในโยเกิร์ตรสและยี่ห้อนั้น ๆ มีส่วนประกอบและคุณค่าทางอาหารอะไรบ้าง แนะนำว่าโยเกิร์ตธรรมชาติที่มีน้ำตาลน้อยดีที่สุด



- แอปเปิ้ลแอปเปิ้ลมีสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด อาทิ สารเบตาแคโรทีน วิตามินซี นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยมาก ซึ่งจะทำหน้าที่ทำความสะอาดลำไส้ ช่วยให้ตับและระบบย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น และถ้าอยากได้คุณค่าเต็มเปี่ยมแนะนำให้ทานแอปเปิ้ลทั้งเปลือก เพราะเปลือกของแอปเปิ้ลแดง 1 ผลนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับวิตามินซี 820 มิลลิกรัม



- ถั่ว“ถั่ว” ถือเป็นโปรตีนจากพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงไม่แพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์เชียว ดังนั้นคนที่อยู่ในช่วงทานเจหรือมังสวิรัติแต่ไม่อยากให้ร่างกายขาดโปรตีน ถั่วจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด และที่สำคัญถั่วยังอุดมไปด้วยวิตามินที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของผิวหนัง ผม การควบคุมความดันโลหิต ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ไขมันไม่อิ่มตัวในถั่วจะช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล



- ธัญพืช"ธัญพืช" จำพวกข้าวโพด , ลูกเดือย ,งา ,ข่าวฟ่าง,เมล็ดทานตะวัน, จมูกข้าว, รำจ้าว (ชนิดที่อบกรอบพร้อมทาน) ติดตู้เย็นไว้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มากทั้งยังดีต่อสุขภาพ โดยในธัญพืชจะมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ต้องใช้เวลาในการย่อย ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่ขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทำเกิดเป็นโรคเบาหวานตามมาในภายหลัง (ต่างจากแป้งขัดขาวซึ่งน้ำตาลจะถูกย่อยเร็ว) นอกจากนี้ธัญพืชยังเปี่ยมด้วยวิตามิน เกลือแร่ และไฟเบอร์รู้อย่างนี้แล้ว ลองหาอาหารแต่ละชนิดมาติดไว้ในตู้เย็น เพื่อสุขภาพที่ดี.




วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

AuOvOm~วันเด็ก







วันเด็ก



คำขวัญวันเด็กเกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2499 ในสมัยนายกรัฐมนตรี จอมพล ป. พิบูลสงคราม และในปี พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็ก จึงได้คิดคำขวัญที่เป็นคติเตือนใจมอบเป็นของขวัญให้เด็กปีละ 1 คำขวัญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นธรรมเนียมสืบทอดมาถึงปัจจุบัน




2499
จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม


2502
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า


2503
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด


2504
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย


2505
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด


2506
ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด


2507
ไม่มีคำขวัญ เนื่องจากงดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ


2508
เด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี


2509
เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี


2510
อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย


2511
ความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง


2512
รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ


2513
เด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส


2514
ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ


2515
เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ


2516
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ


2517
สามัคคีคือพลัง


2518
เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี


2519
เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้


2520
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย


2521
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง


2522
เด็กไทยคือหัวใจของชาติ


2523
อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย


2524
เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม


2525
ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย


2526
รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม


2527
รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา


2528
สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม


2529
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม


2530
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม


2531
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม


2532
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม


2533
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม


2534
รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา


2535
สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม


2536
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม


2537
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม


2538
สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม


2539
มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด


2540
รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด


2541
ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย


2542
ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย


2543
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย


2544
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย


2545
เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส


2546
เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี


2547
รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน


2548
เด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด


2549
อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด


2550
มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข


2551
สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม


2552
ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี





วันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปีถือเป็นวันเด็กนานาชาติ ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการครั้งแรกในการประชุมสมัชชาสหประชาติเมื่อปี 1954 เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศกำหนดวันเด็กในประเทศของตน โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการสร้างความเข้าใจในตัวเด็ก และเฉลิมฉลองให้แก่เด็กๆ ทั่วโลก


สำหรับวันเด็กในประเทศต่างๆ ขอเริ่มต้นที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างสิงคโปร์นะคะ วันเด็กของประเทศสิงคโปร์คือวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งในวันนั้นเด็กๆ ที่สิงคโปร์จะไม่ต้องไปโรงเรียนและเฉลิมฉลองกัน


ส่วนที่ประเทศมาเลเซีย จะกำหนดในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนตุลาคมของทุกปี เด็กนักเรียนประถมจะไปโรงเรียนกันในวันนั้นเพื่อเฉลิมฉลองที่โรงเรียน เพราะจะมีการจัดกิจกรรมมากมายเพื่อเด็กๆ ส่วนประเทศเกาหลีใต้จะเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม ในวันนั้นพ่อแม่มักจะมอบของขวัญให้กับลูกๆ ของ


ข้ามฝั่งไปทางทวีปยุโรปบ้างอย่างประเทศโปแลนด์ที่กำหนดในวันที่ 1 มิถุนายน วันเด็กนานาชาติเริ่มเป็นที่รู้จักในโปแลนด์เมื่อปี 1952 ซึ่งบังเอิญตรงกับวันเริ่มต้นฤดูร้อน และเป็นช่วงวันหยุด อีกทั้งช่วงนั้นจะตรงกับช่วงใกล้ปิดเทอม โรงเรียนมักจะจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเฉลิมฉลอง และในอาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายน ก็จะมีการจัดงานเพื่อเด็กๆ ตามสวนสาธารณะและศูนย์สันทนาการต่างๆ พ่อแม่ก็มักจะซื้อของขวัญเล็กๆ ให้ลูกๆ ด้วย


ส่วนวันเด็กของประเทศโรมาเนียมีขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายนเช่นกัน ถือเป็นวันที่เด็กๆ ต่างเฝ้ารอคอยในแต่ละปี ในวันนั้นเด็กๆ จะได้รับการอวยพร และของขวัญจากพ่อแม่ บางครั้งที่โรงเรียนก็จะจัดกิจกรรมพิเศษอย่างเช่น การจัดทัศนศึกษา เป็นต้น


ยังมีวันเด็กในอีกหลายประเทศเลยนะคะที่จัดในวันที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นวันเด็กที่ในประเทศอาร์เจนติน่าและชิลีซึ่งกำหนดเป็นวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม สำหรับประเทศอาร์เจนติน่าจะเรียกวันนั้นว่าวัน Día del Niño หรือที่ประเทศโคลัมเบียจะเฉลิมฉลองในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนเมษายน ประเทศตุรกีคือวันที่ 23 เมษายน ส่วนประเทศอิสราเอลจะเป็นวันที่ 19 ตุลาคม เป็นต้น






วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

AuOvOm~New Year's Day







New Year's Day


New Year's Day is the first day of the new year. On the modern Gregorian calendar, it is celebrated on January 1, as it was also in ancient Rome (though other dates were also used in Rome). In all countries using the Gregorian calendar as their main calendar, except for Israel, it is a public holiday,[citation needed] often celebrated with fireworks at the stroke of midnight as the new year starts. January 1 on the Julian calendar corresponds to January 14 on the Gregorian calendar, and it is on that date that followers of some of the Eastern Orthodox churches celebrate the New Year.






History


Originally observed on March 15 in the old Roman Calendar, New Year's Day first came to be fixed in January 1, 153 BC, when the two Roman consuls, after whom — in the Roman calendar — years were named and numbered, began to be chosen on that date, for military reasons. However, dates in March, coinciding with the spring equinox, or commemorating the Annunciation of Jesus, along with a variety of Christian feast dates were used throughout the Middle Ages, though calendars often continued to display the months in columns running from January to December in the Roman fashion.
Among the 7th-century pagans of Flanders and the Netherlands it was the custom to exchange gifts at the New Year, a pagan custom deplored by Saint Eligius (died 659 or 660), who warned the Flemings and Dutchmen, "[Do not] make vetulas, [little figures of the Old Woman], little deer or iotticos or set tables [for the house-elf, compare Puck] at night or exchange New Year gifts or supply superfluous drinks [another Yule custom]." The quote is from the vita of Eligius written by his companion Oueen..
Most countries in Western Europe officially adopted January 1 as New Year's Day somewhat before they adopted the Gregorian calendar. The Feast of the Annunciation, March 25 (9 months before December 25), was the first day of the new year in England until the adoption of the Gregorian Calendar in 1752. The March 25th date was called Annunciation Style; the January 1 date was called Circumcision Style, because this was the date of the Feast of the Circumcision, being the eighth day counting from December 25.





New Year's Day



In England and Scotland an extra round of football fixtures is played (unless New Year's Day falls on a Thursday, Friday or Sunday).

In Pasadena, California, United States, the Tournament of Roses is held, with revelers viewing the parade from the streets and watching on television, followed by the Rose Bowl college football game. The game is one of several postseason bowl games played in college football in the United States (though in 2004 and 2006, due to its involvement in the Bowl Championship Series (BCS), the Rose Bowl game was not held on New Year's Day).

Polar Bear Clubs: in many northern hemisphere cities near bodies of water, they will have a tradition of people plunging into the cold water on New Year's Day. The Coney Island Polar Bears Club in New York is the oldest cold-water swimming club in the United States. They have had groups of people enter the chilly surf since 1903.

In Philadelphia, the Mummers Parade is held on Broad Street.

Hindu New Year, which falls at the time and date Sun enters Mesha.

Hindus celebrate the new year by paying respects to their parents and other elders and seek their blessings. They also exchange tokens of Good Wishes (Kai Vishesham).

The New Year's Day Parade is held in London. Performers include acts from each of the city's 32 boroughs, as well as entertainment from around the world.

In the southern United States, people traditionally prepare a meal of collard greens and black-eyed peas for a year of good luck. A dime is often placed beneath the plate as a part of the tradition.

Ski jumping in Garmisch-Partenkirchen in Germany, a part of the Four Hills Tournament.

In Pennsylvania and Ohio, it is common[who?] to celebrate New Year's Day with a meal of pork, sauerkraut, and mashed potatoes. The practice comes from a Pennsylvania Dutch tradition that dictates these foods will bring good luck in the new year.





New Year's Eve



In Brazil, celebrations are held around the nation. Most famous is the celebration in Rio de Janeiro which occurs in Copacabana beach, drawing 1.5 to 2.5 million people.

In Australia, celebrations are held around the nation, especially in Sydney, where one of the world's largest fireworks displays draws 1 to 1.5 million people to the harbour. Australia is one of the first countries in the world to celebrate the new year.

In New York City, the now 11,875-pound (5,386-kg), 12-foot-diameter (3.7-m) Times Square Ball located high above Times Square is lowered starting at 11:59:00 p.m., or the last minute of the year, and reaches the bottom of its tower at the stroke of midnight with fireworks. It is sometimes referred to as "the big apple" like the city itself; the custom derives from the time signal that used to be given at noon in harbors.

Other ball drops occur in Copacabana beach in Rio de Janeiro and Sydney Harbour.

In European countries, the New Year is greeted with massive private fireworks. This day is also the occasion to make bonfires of discarded Christmas trees in some countries.

In Russia the New Year is greeted by fireworks and drinking champagne. The New Year is considered a family celebration, with lavish dinner tables and gifts. The president of Russia normally counts down the final seconds of the "old year", as it is called in Russia. A giant clock tower chimes in the new year, and it is customary to make a wish with each chime.

In South Korea, the most popular way of celebrating New Year's Day is to travel to Jung dong jin, the place on the peninsula where the Sun can first be seen each day.

Some mayors in North America hold New Year levees.

In Scotland, there are many special customs associated with the New Year. For more information, see Hogmanay, the Scots name for the New Year celebration.

In Davos, Switzerland, the final match of the Spengler Cup Ice Hockey Tournament is usually held on this day by tradition.

In the Philippines, people light fireworks, loud firecrackers, booming sound system, bamboo canons as well as make a lot of noise. Coins are also jumbled in tin cans to make noise with the belief that this will bring more money to the revelers.

One country that uses the Gregorian calendar for business but does not formally celebrate a Dec 31/Jan 1 New Years holiday is Israel, this mainly due to objections by religious parties on the holiday's Christian religious origins. However, many secular Israelis do partake in some sort of informal celebration, especially if they have European or North American origins, especially the immigrants from the former USSR, who celebrate Novi God, the Russian version of the holiday.

It is also very popular to kiss loved ones on New Years Eve to celebrate love and happiness.