วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

ทำยังไงดีเมื่อมีปัญหา "ผมร่วง"

เราจะสังเกตได้จากเวลาที่เราสระผมจะมีผมจำนวนร่วงออกมา โดยส่วนใหญ่แล้วผมคนเราจะร่วงประมาณ 50 เส้นต่อวัน แต่ถ้าสาวๆ สังเกตแล้วว่าผมของเริ่มร่วงเยอะว่าปกติแล้วล่ะก็ คงจะต้องหาตัวช่วยในการบำรุงสุขภาพผมของเราซะหน่อยแล้วล่ะค่ะ




ทำยังไงดีเมื่อมีปัญหา "ผมร่วง"



โดยวิธีการดูแลสุขภาพผมนั้นสาวๆ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ แค่ ควรนวดหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเพื่อบำรุงรากผมบ้างถ้ามีเวลา และถ้าเป็นไปได้ควรทำความสะอาดผมอย่างสม่ำเสมอ และทุกครั้งที่ทำความสะอาดผมควรใส่ครีมบำรุงผมด้วยนะคะ



พี่เหมี่ยวจะบอกให้นะคะว่า นอกจากการบำรุงสุขภาพผมด้วยการทำทรีตเม้นต์และการอบไอน้ำแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็สามารถช่วยบำรุงเส้นผมของสาวๆ ได้ค่ะ สาวๆ ควรเลือกรับประทานอาหารและของที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม เช่น ธัญพืช, ข้าวกล้อง, งาดำ, เมล็ดทานตะวัน, ฟักทอง



นอกจากนี้ยังควรรับประทานแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อรากผม เช่น Biotin ไบโอติน หรือ Vitamin H จัดเป็นวิตามินชนิดหนึ่งในกลุ่มวิตามินบีซึ่งจำเป็นสำหรับขบวนการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกาย ซึ่งช่วยบำรุงผิวหนัง ผม กล้ามเนื้อ และประสาท




อาหารที่มีไบโอตินอยู่มากได้แก่ ตับหมู ไตวัว เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว น้ำมันปลา ข้าวกล้อง ข้าวโพด รำข้าวสาลี ไข่ นม เนย โยเกิร์ต ผักต่างๆ โดยเฉพาะดอกกะหล่ำ กระหล่ำปลี เห็ด และแครอทค่ะ … เห็นรึเปล่าค่ะว่าอาหารบำรุงผมทั้งหลายเป็นอาหารง่ายๆ ที่เราสามารถหารับประทานได้ทั่วไป
ทำยังไงดีเมื่อมีปัญหา "ผมร่วง"




ส่วนสาเหตุของการที่ร่างกายของสาวๆ ขาดไบโอตินนั้น อาจเกิดมาจากการรับประทานไข่ขาวดิบในปริมาณมากเป็นระยะเวลานานๆ อันเนื่องมาจากใน "ไข่ขาว" มีสารที่จะทำลายไบโอติน เมื่อร่างกายเกิดอาการขาดวิตามินนี้ก็จะทำให้เกิดเป็นโรคผิวหนัง ผิวหนังมีสีเทา อ่อนเพลีย โลหิตจาง มีโคเลสเตอรอลในเลือดสูงกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอีกตัวหนึ่งที่เมื่อร่างกายขาดแล้วจะทำให้ผมร่วงก็คือ Zine ค่ะ
ได้ทราบกันแล้วนะคะว่ามีอาหารชนิดใดที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผมของสาวๆ บ้าง ดังนั้นก็ได้เวลาที่สาวๆ ก็ควรจะหันกลับมาใส่ใจสุขภาพผอมของตัวเองให้มากขึ้นแล้วล่ะค่ะ …




วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553








เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมถึงใช้อักษรย่อ No. แทน Number

ทั้ง ๆ ที่ไม่มีตัว o ในคำว่า Number
















หลาย ๆ คนอาจจะเคยสงสัยกันใช่ไหมว่า
ทำไมจึงชอบเขียนคำว่า No. เป็นคำย่อแทนคำว่า number
ซึ่งในความจริงแล้วมันไม่ได้เขียนเหมือนกันเลยซักหน่อย
วันนี้จะพาไปรู้จักที่มาว่าเหตุใดคนส่วนใหญ่จึงเขียนคำว่า Number เป็น No. แทน

















คำตอบคือ จริง ๆ แล้ว No. ไม่ได้เป็นอักษรย่อของ Numberนะสิ
No. นั้นเป็นอักษรย่อของ numero ซึ่งเป็นภาษาละตินแปลว่า number
ซึ่งถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ก็จะเป็นคำว่า ablative
แปลเป็นภาษาไทย คือ จำนวน นั่นเอง
และนี่จึงเป็นที่มาของการใช้คำว่า No. แทน Number ครับบ