วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

เคล็ดลับ 10 ประการพิชิต Admission

เคล็ดลับ 10 ประการพิชิต Admission



1. สร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง: น้องๆ ต้องมองโลกในด้านบวกให้กับสิ่งที่น้องๆ ต้องการและตั้งใจแน่วแน่ในการกระทำเพราะข้อสอบไม่ว่าจะยากเท่าไหร่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม



2. ประเมิณความสามารถของตัวเอง: น้องๆ ต้องพิจารณาว่าคณะวิชาที่น้องเลือกนั้น น้องมีพื้นฐานความรู้ในวิชาที่จะใช้สอบมากน้อยเพียงใด การแข่งขันของคณะวิชานั้นสูงแค่ไหน และประเมินจากเวลาที่เหลือที่น้องๆ จะใช้ในการเตรียมตัวว่าพอเพียงหรือไม่



3. แบ่งเวลาในการดูหนังสือ และกิจกรรมต่างๆ ให้ลงตัว: เวลาผ่านไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับมาได้น้องๆ ต้องพยายามแบ่งเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมโดยให้เวลากับอ่านหนังสือเป็นหลัก แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะผ่อนคลายโดยการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่น้องๆ ชอบด้วย



4. วางแผนจัดการชีวิตให้ลงตัว: ข้อนี้จะคล้ายกับการแบ่งเวลาแต่จะลงรายละเอียดเยอะกว่าโดยน้องๆ จะต้องวางแผนการดำเนินชีวิตในแต่ละวันว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายที่น้องตั้งเอาไว้



5. เอาชนะตัวเอง: ข้อนี้เป็นข้อที่ยากที่สุด เพราะถ้าน้องๆ เอาชนะตัวเอง เอาชนะความเกียจคร้าน สร้างวินัยให้กับตนเอง สร้างกำลังใจให้กับตัวเองไม่ได้ น้องๆจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลย



6. ขจัดความกังวลออกไป: เมื่อน้องๆ เริ่มลงมือเตรียมตัวเพื่อสอบต้องตัดความกังวลที่มีอยู่ออกไปให้หมด อย่ากังวลถึงอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้น อย่าคิดว่าทำไม่ได้ น้องๆต้องคิดว่าเมื่อมีความพยายาม ต้องมีความสำเร็จ



7. ทำตัวให้สนุกกับการอ่านหนังสือ: อย่ามองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่ให้มองว่าเป็นเรื่องที่สนุกสนานทำให้เราประเทืองปัญญา ทำให้เราเป็นคนที่รอบรู้ สามารถเข้าสังคมได้อย่างไม่อายใครและเป็นที่ยอมรับในอนาคต




8. ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง: รางวัลในที่นี้คงไม่ได้หมายถึง เงินทอง เพชรพลอย แต่หมายถึงการทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย กิจกรรมที่ทำแล้วสบายใจ เช่นการร้องคาราโอเกะ ดูหนัง ฟังเพลง




9. สร้างสิ่งแวดล้อมให้เป็นแรงกระตุ้น: อาจจะทำได้โดยการรวมกลุ่มกันอ่านหนังสือกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนความคิดและทบทวนในสิ่งที่เรากำลังอ่าน นอกจากจะทำให้เราอยากอ่านหนังสือแล้วยังทำให้เราประเมิณตัวเองได้อีกว่ายังต้องพยายามมากขึ้นอีกแค่ไหน




10. ให้โอกาสตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร: ทางเลือกในการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยมีอยู่มากมาย ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐบาล และเอกชนถึงน้องจะพลาดหวังจากทางเลือกนึงก็ยังที่ทางเลือกอื่น

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

4 'อย่า” เมื่อคุณจะนอน

'อย่า” เมื่อคุณจะนอน



• อย่าที่ 1 คือ อย่านอนหลับไปพร้อมๆ กับนาฬิกาข้อมือ ก็เพราะขณะที่นาฬิกาเจ้ากรรมทำงานไปเรื่อยๆ นั้น เจ้านาฬิกาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนปล่อยพลังงานทั้งสิ้น เชื่อมั้ยว่าการใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผลต่อสุขภาพระยะยาวเลย



• อย่าที่ 2 นี่ สำหรับพวกชอบคุยโทรศัพท์มือถือจนหลับโดยเฉพาะเลย ไม่ควรนอนหลับไปพร้อมๆ กับโทรศัพท์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย บางคนที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือของท่านไว้ให้ใกลตัวที่สุดเมื่อจะนอนซะเถอะ ไปหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ ดีๆ เก๋ๆ มาใช้ดีกว่า เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า โทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วเนี่ย จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาขณะเปิดเครื่องไว้ และเจ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาทซะด้วยสิ เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า พอปิดโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว จะวางไว้ใกล้หรือไกลก็หายห่วง




• อย่าที่ 3 ง่ายๆ สั้นๆ คือ อย่าหลับพร้อมๆ กับเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้าขนาดไหน ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพราะการหลับทั้งๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้านั้น จะก่อให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว กลางคืนคือช่วงเวลาที่ผิวพรรณจะได้พักผ่อนบ้างนะค่ะ




• อย่าที่ 4 (สำหรับสาวๆ เท่านั้น) คือ อย่านอนหลับทั้งๆ ที่ยังใส่ยกทรง นักวิ ทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ค้นพบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้ ฉะนั้น ก็อย่าใส่ยกทรงนอนเลย ไม่ต้องกลัวเสียทรง ไม่ต้องกลัวอกแบะ ห่วงชีวิตไว้ก่อนดีกว่า

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552

วันเยาวชนแห่งชาติ





วันเยาวชนแห่งชาตินี้เกิดขึ้นจากการที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากลค่ะ เพื่อที่จะมุ่งเน้นให้เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15 - 25 ปี ตระหนักถึงความสำคัญของตนเองที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต และสามารถช่วยสร้างเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
และที่สำคัญ วันที่ 20 กันยายน ยังเป็นวันมงคลอย่างยิ่ง เนื่องมาจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์สองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติในขณะที่ยังทรงพระเยาว์

จึงถือเป็นวันสิริมงคลที่เยาวชนควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์ ทางคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2528 กำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ
วันเด็กยังมีคำขวัญประจำทุกปี วันเยาวชนแห่งชาติก็มีคำขวัญเช่นกันค่ะ โดยองค์การสหประชาชาติเค้าใช้คำขวัญว่า “Participation, Development and Peace” ซึ่งถอดความเป็นภาษาไทยว่า “ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ” ซึ่งมีความหมายที่ดี และสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง


วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

10 มหาวิทยาลัยยอดนิยมจัดตามอันดับแล้ว โดยมหาวิทยาลัยมหิดลโพลเดือนส.ค. 2552 จากโรงเรียนมัธยมชั้นนำทุกภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑล


อันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อันดับ 2 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อันดับ 3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

อันดับ 4 มหาวิทยาลัยมหิดล

อันดับ 5 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อันดับ 6 มหาวิทยาลัยศิลปากร

อันดับ 7 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

อันดับ 8 มหาวิทยาลัยขอนแก่น

อันดับ 9 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

อันดับ 10 มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด)


********************************5 คณะยอดนิยมของเยาวชนชาย คือ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ 16.2%

คณะแพทย์ศาสตร์ 15%

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 8.4%

คณะนิติศาสตร์ 7.9%

คณะรัฐศาสตร์ 7.4%

ส่วนเยาวชนหญิงนั้น คือ

คณะอักษรศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ และคณะมนุษยศาสตร์ 20.4%

คณะนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ และคณะสื่อสารมวลชน 17.3%

คณะบัญชี 7.6%

คณะรัฐศาสตร์ 5.2%

คณะพยาบาลศาสตร์ 4.6%

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

The Giant Cat Fish

Every year, at Hat Krai Village of the northernmost province of Chiang Rai between April and May, Thai and Laotian fishermen will be very busy casting their 250-metre long nylon net to catch the Gian Catfish in the Mekong River



The Giant Catfish is known in Thai as “Pla Buk”. This giant of freshwater and the King of Mekong River can grow up to 300 kilogrammes and 3 metre after 15 years. During this period of the year as it is the mating season the fish will migrate up the river to spawn. Unfortunately, on the way they become the victims of the deathtrap laid by the fishermen of the two countries.



In fact, before catching the fish, the Brahmin rituals must be held in order to please the Father-spirit of Pla Buk. It is believed ceremony. After performing the rituals, Thai and Laotian fishermen will build temporary bamboo shelter on their respective islands. After each crew has offered a chicken and local-made liquor to the guardian spirit of their boat, they then burn a special herb to drive away the evil ghosts from the net. Not the hunting begins.



The fishing rotation is decided by a draw. Everybody is waiting for his turn enthusiastically and immediately after a Thai team has gone, a Laotian boat is ready to push off.



It is said that the problem in its flesh is good for nourishing the brain much more than any other animal protein and it is also believed that whoever tastes the fish will have a long life and become clever. So its meat has become favourite and expensive dish served in leading restaurants in nearby province and also in Bangkok. Each season about 25-30 giant catfishes will be caught by fishermen of the two countries.



he fishing season also attracts a lot of attention from both local and foreign tourists who are enthusiastic to see the freshwater monster. Unless the fish faces extinction, the fishing season will be carried on from generation to generation of both countries.







ปลาบึก

ทุกๆ ปีระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ที่หมู่บ้านหาดไคร้ในจังหวัดเชียงรายซึ่งอยู่เหนือสุดของประเทศ ชาวประมงไทยและลาวจะยุ่งอยู่กับการวางอวนไนลอนที่มีความยาวถึง 250 เมตร เพื่อจับปลาบึกในลำน้ำโขง

The Giant Catfish นี้ภาษาไทยเรียกว่า “ปลาบึก” ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่และเป็นราชาแห่งลำน้ำโขง เพราะว่ามันสามารถเจริญเติบโตจนมีน้ำหนักถึง 300 กิโลกรัม และมีขนาดลำตัวยาวถึง 3 เมตร หลังจากอายุได้ 15 ปี ในช่วงระยะเวลานี้ของปีซึ่งเป็นฤดูวางไข่ ปลาบึกจะว่ายทวนน้ำขึ้นไปวางไข่ อนิจจา! ในระหว่างการเดินทางไปวางไข่นี้เองที่เจ้าแห่งลำน้ำโขงต้องมาสังเวยชีวิตให้กับชาวประมงทั้ง 2 ประเทศนี้

ที่จริงแล้วก่อนที่จะเริ่มจับปลานี้ จะต้องมีการจัดพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์เสียก่อน เพื่อเป็นการเอาใจเจ้าพ่อปลาบึก เป็นที่เชื่อกันว่า ตลอดฤดูกาลจับปลานี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับพิธีเริ่มนี้ด้วย หลังจากเสร็จพิธีกรรมแล้วชาวประมงไทยและลาวก็จะทำการสร้างที่พักชั่วคราวด้วยไม้ไผ่บนฝั่งในประเทศของตน และหลังจากที่ลูกเรือแต่ละคนได้เซ่นไหว้ด้วยไก่และเหล้าขาวต่อแม่ย่านางประจำเรือของตนแล้ว พวกเขาก็จะเผาสมุนไพรชนิดหนึ่งเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้ายให้ออกไปจากอวน และนับจากนี้ไปการไล่ล่าก็จะเริ่มขึ้น

การจับปลาก็จะหมุนเวียนกันในแต่ละทีมของแต่ละประเทศทั้ง 2 โดยการจับฉลาก ทุกคนต่างก็รอให้ถึงรอบของตนอย่างกระตือรือร้นและทันทีที่ทีมไทยบ่ายหน้าออกไป เรือของฝ่ายลาวก็เตรียมพร้อมที่จะทะยานออกไปทันทีที่ถึงรอบของตน

กล่าวกันว่าโปรตีนที่ได้จากเนื้อของปลาบึกนี้เป็นอาหารบำรุงสมองได้ดีกว่าโปรตีนที่ได้จากสัตว์อื่นๆ และยังเชื่อกันอีกว่าใครก็ตามที่ได้ลิ้มรสของปลานี้แล้วจะทำให้อายุยืนและชาญฉลาด ดังนั้นปลาบึกจึงดูเหมือนว่าจะกลายเป็นอาหารจานโปรดและค่อนข้างแพง ซึ่งมีบริการในภัตตาคารทั้งในจังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานคร แต่ละช่วงฤดูกาลชาวประมงของทั้ง 2 ประเทศ สามารถจับปลาบึกได้ประมาณ 25-30 ตัว

นอกจากนี้ฤดูกาลจับปลาบึกยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศผู้ซึ่งกระตือรือร้นที่จะดูเจ้าสัตว์ประหลาดน้ำจืดนี้อีกด้วย ตราบใดที่ปลาบึกยังไม่สูญพันธุ์ ฤดูกาลไล่ล่าก็จะยังคงมีการสืบทอดกันต่อๆ ไป โดยอนุชนรุ่นหลังของทั้ง 2 ประเทศ